ในส่วนนี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ ตัวแปร และ การคำนวณ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเขียนโปรแกรม ตัวแปรช่วยให้เราสามารถเก็บข้อมูลได้ และการคำนวณช่วยให้เรานำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ เนื้อหานี้จะอธิบายอย่างง่ายๆ พร้อมตัวอย่างและแบบฝึกหัดให้เราได้ลองทำ
1. ตัวแปรคืออะไร?
ตัวแปร (Variables) คือชื่อที่เราใช้ในการเก็บข้อมูลในโปรแกรม เพื่อให้สามารถเรียกใช้หรือแก้ไขข้อมูลนั้นได้ในภายหลัง ลองนึกภาพตัวแปรเหมือนกล่องที่มีป้ายชื่อติดอยู่ ข้างในกล่องอาจเก็บตัวเลข ข้อความ หรือข้อมูลอื่นๆ
การสร้างตัวแปรใน Python ใช้เครื่องหมาย = เพื่อกำหนดค่าให้ตัวแปร ไม่ต้องระบุประเภทข้อมูล (เช่น ตัวเลขหรือข้อความ) เพราะ Python จัดการให้อัตโนมัติ
ตัวอย่าง:
name = "Somchai" # ตัวแปร name เก็บข้อความ "Somchai"
age = 20 # ตัวแปร age เก็บตัวเลข 20
height = 1.75 # ตัวแปร height เก็บตัวเลขทศนิยม 1.75
กฎการตั้งชื่อตัวแปร
- ต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษร (a-z, A-Z) หรือเครื่องหมายขีดล่าง _
- ห้ามขึ้นต้นด้วยตัวเลขหรืออักขระพิเศษ (เช่น 1name หรือ @name)
- ห้ามใช้คำสงวนของ Python เช่น if, for, print
- ควรตั้งชื่อให้สื่อความหมาย เช่น age แทน x
2. ประเภทข้อมูลพื้นฐาน
ข้อมูลที่เก็บในตัวแปรมีหลายประเภทใน Python ซึ่งแต่ละประเภทมีวิธีใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้:
- String (ข้อความ): ข้อมูลที่เป็นตัวอักษรหรือประโยค ต้องอยู่ในเครื่องหมายคำพูด ” “ หรือ ‘ ‘
- ตัวอย่าง: “Hello”, ‘Python’
- Integer (จำนวนเต็ม): ตัวเลขที่ไม่มีทศนิยม
- ตัวอย่าง: 10, -5, 0
- Float (ทศนิยม): ตัวเลขที่มีจุดทศนิยม
- ตัวอย่าง: 3.14, -0.5
- Boolean (จริง/เท็จ): ค่าที่มีแค่สองสถานะ True หรือ False
- ตัวอย่าง: is_student = True
การตรวจสอบประเภทข้อมูล
- ใช้ฟังก์ชัน type() เพื่อดูว่าตัวแปรเป็นประเภทอะไร
- ตัวอย่าง:
name = "Somchai"
age = 20
print(type(name)) # ผลลัพธ์: <class 'str'>
print(type(age)) # ผลลัพธ์: <class 'int'>
3. การคำนวณใน Python
Python มีเครื่องหมายสำหรับการคำนวณทางคณิตศาสตร์พื้นฐานที่ใช้งานง่าย ดังนี้:
เครื่องหมาย | ความหมาย | ตัวอย่าง | ผลลัพธ์ |
+ | บวก | 5 + 3 | 8 |
– | ลบ | 10 – 4 | 6 |
* | คูณ | 2 * 3 | 6 |
/ | หาร | 10 / 2 | 5.0 |
// | หารไม่เอาเศษ | 7 // 2 | 3 |
% | หารเอาเศษ | 7 % 2 | 1 |
** | ยกกำลัง | 2 ** 3 | 8 |
ตัวอย่างการคำนวณ
a = 10
b = 3
sum = a + b # 10 + 3
difference = a - b # 10 - 3
product = a * b # 10 * 3
quotient = a / b # 10 / 3
print(sum) # ผลลัพธ์: 13
print(difference) # ผลลัพธ์: 7
print(product) # ผลลัพธ์: 30
print(quotient) # ผลลัพธ์: 3.3333333333333335
4. การใช้ตัวแปรและการคำนวณร่วมกัน
เมื่อมีตัวแปรและการคำนวณ เราสามารถสร้างโปรแกรมที่ซับซ้อนขึ้นได้ เช่น การคำนวณราคาสินค้าหรืออายุในอนาคต
ตัวอย่าง: คำนวณอายุในอีก 5 ปี
current_age = 20
future_age = current_age + 5
print("ตอนนี้คุณอายุ", current_age, "ปี")
print("ในอีก 5 ปี คุณจะอายุ", future_age, "ปี")
ผลลัพธ์:
ตอนนี้คุณอายุ 20 ปี
ในอีก 5 ปี คุณจะอายุ 25 ปี
ตัวอย่าง: คำนวณราคาสินค้าพร้อมภาษี
price = 100 # ราคาสินค้า
tax_rate = 0.07 # อัตราภาษี 7%
tax = price * tax_rate
total_price = price + tax
print("ราคาสินค้า:", price, "บาท")
print("ภาษี:", tax, "บาท")
print("ราคารวมทั้งหมด:", total_price, "บาท")
ผลลัพธ์:
ราคาสินค้า: 100 บาท
ภาษี: 7.0 บาท
ราคารวมทั้งหมด: 107.0 บาท
5. แบบฝึกหัด
ลองฝึกเขียนโค้ดเพื่อทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับตัวแปรและการคำนวณ:
- คำนวณอายุในอนาคต
- รับอายุปัจจุบันจากผู้ใช้ (ใช้ input())
- คำนวณอายุในอีก 10 ปีข้างหน้า
- แสดงผลลัพธ์
- คำใบ้: ต้องแปลงข้อมูลจาก input() เป็นตัวเลขด้วย int() เช่น age = int(input(“อายุ: “))
- คำนวณพื้นที่สี่เหลี่ยม
- รับความยาวและความกว้างจากผู้ใช้
- คำนวณพื้นที่ (ความยาว × ความกว้าง)
- แสดงผลลัพธ์
- แปลงหน่วยเงิน
- รับจำนวนเงินในหน่วยบาทจากผู้ใช้
- แปลงเป็นดอลลาร์สหรัฐ (สมมติ 1 USD = 33 บาท)
- แสดงผลลัพธ์
สรุป
- ตัวแปร คือกล่องที่ใช้เก็บข้อมูล เช่น ข้อความ (str), จำนวนเต็ม (int), หรือทศนิยม (float)
- สามารถคำนวณข้อมูลในตัวแปรได้ด้วยเครื่องหมาย +, –, *, /, และอื่นๆ
- การใช้ตัวแปรร่วมกับการคำนวณช่วยให้คุณสร้างโปรแกรมที่มีประโยชน์ในชีวิตจริงได้