3: ตัวแปรและการคำนวณ

ในส่วนนี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ ตัวแปร และ การคำนวณ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเขียนโปรแกรม ตัวแปรช่วยให้เราสามารถเก็บข้อมูลได้ และการคำนวณช่วยให้เรานำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ เนื้อหานี้จะอธิบายอย่างง่ายๆ พร้อมตัวอย่างและแบบฝึกหัดให้เราได้ลองทำ

1. ตัวแปรคืออะไร?

ตัวแปร (Variables) คือชื่อที่เราใช้ในการเก็บข้อมูลในโปรแกรม เพื่อให้สามารถเรียกใช้หรือแก้ไขข้อมูลนั้นได้ในภายหลัง ลองนึกภาพตัวแปรเหมือนกล่องที่มีป้ายชื่อติดอยู่ ข้างในกล่องอาจเก็บตัวเลข ข้อความ หรือข้อมูลอื่นๆ

การสร้างตัวแปรใน Python ใช้เครื่องหมาย = เพื่อกำหนดค่าให้ตัวแปร ไม่ต้องระบุประเภทข้อมูล (เช่น ตัวเลขหรือข้อความ) เพราะ Python จัดการให้อัตโนมัติ

ตัวอย่าง:

Python
name = "Somchai"   # ตัวแปร name เก็บข้อความ "Somchai"
age = 20           # ตัวแปร age เก็บตัวเลข 20
height = 1.75      # ตัวแปร height เก็บตัวเลขทศนิยม 1.75

กฎการตั้งชื่อตัวแปร

  1. ต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษร (a-z, A-Z) หรือเครื่องหมายขีดล่าง _
  2. ห้ามขึ้นต้นด้วยตัวเลขหรืออักขระพิเศษ (เช่น 1name หรือ @name)
  3. ห้ามใช้คำสงวนของ Python เช่น if, for, print
  4. ควรตั้งชื่อให้สื่อความหมาย เช่น age แทน x
2. ประเภทข้อมูลพื้นฐาน

ข้อมูลที่เก็บในตัวแปรมีหลายประเภทใน Python ซึ่งแต่ละประเภทมีวิธีใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้:

  1. String (ข้อความ): ข้อมูลที่เป็นตัวอักษรหรือประโยค ต้องอยู่ในเครื่องหมายคำพูด ” “ หรือ ‘ ‘
    • ตัวอย่าง: “Hello”, ‘Python’
  2. Integer (จำนวนเต็ม): ตัวเลขที่ไม่มีทศนิยม
    • ตัวอย่าง: 10, -5, 0
  3. Float (ทศนิยม): ตัวเลขที่มีจุดทศนิยม
    • ตัวอย่าง: 3.14, -0.5
  4. Boolean (จริง/เท็จ): ค่าที่มีแค่สองสถานะ True หรือ False
    • ตัวอย่าง: is_student = True

การตรวจสอบประเภทข้อมูล

  • ใช้ฟังก์ชัน type() เพื่อดูว่าตัวแปรเป็นประเภทอะไร
  • ตัวอย่าง:
Python
name = "Somchai"
age = 20
print(type(name))  # ผลลัพธ์: <class 'str'>
print(type(age))   # ผลลัพธ์: <class 'int'>
3. การคำนวณใน Python

Python มีเครื่องหมายสำหรับการคำนวณทางคณิตศาสตร์พื้นฐานที่ใช้งานง่าย ดังนี้:

เครื่องหมายความหมายตัวอย่างผลลัพธ์
+บวก5 + 38
ลบ10 – 46
*คูณ2 * 36
/หาร10 / 25.0
//หารไม่เอาเศษ7 // 23
%หารเอาเศษ7 % 21
**ยกกำลัง2 ** 38

ตัวอย่างการคำนวณ

Python
a = 10
b = 3
sum = a + b        # 10 + 3
difference = a - b # 10 - 3
product = a * b    # 10 * 3
quotient = a / b   # 10 / 3
print(sum)         # ผลลัพธ์: 13
print(difference)  # ผลลัพธ์: 7
print(product)     # ผลลัพธ์: 30
print(quotient)    # ผลลัพธ์: 3.3333333333333335
4. การใช้ตัวแปรและการคำนวณร่วมกัน

เมื่อมีตัวแปรและการคำนวณ เราสามารถสร้างโปรแกรมที่ซับซ้อนขึ้นได้ เช่น การคำนวณราคาสินค้าหรืออายุในอนาคต

ตัวอย่าง: คำนวณอายุในอีก 5 ปี

Python
current_age = 20
future_age = current_age + 5
print("ตอนนี้คุณอายุ", current_age, "ปี")
print("ในอีก 5 ปี คุณจะอายุ", future_age, "ปี")

ผลลัพธ์:

TEXT
ตอนนี้คุณอายุ 20 ปี
ในอีก 5 ปี คุณจะอายุ 25 ปี

ตัวอย่าง: คำนวณราคาสินค้าพร้อมภาษี

Python
price = 100      # ราคาสินค้า
tax_rate = 0.07  # อัตราภาษี 7%
tax = price * tax_rate
total_price = price + tax
print("ราคาสินค้า:", price, "บาท")
print("ภาษี:", tax, "บาท")
print("ราคารวมทั้งหมด:", total_price, "บาท")

ผลลัพธ์:

TEXT
ราคาสินค้า: 100 บาท
ภาษี: 7.0 บาท
ราคารวมทั้งหมด: 107.0 บาท
5. แบบฝึกหัด

ลองฝึกเขียนโค้ดเพื่อทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับตัวแปรและการคำนวณ:

  1. คำนวณอายุในอนาคต
    • รับอายุปัจจุบันจากผู้ใช้ (ใช้ input())
    • คำนวณอายุในอีก 10 ปีข้างหน้า
    • แสดงผลลัพธ์
    • คำใบ้: ต้องแปลงข้อมูลจาก input() เป็นตัวเลขด้วย int() เช่น age = int(input(“อายุ: “))
  2. คำนวณพื้นที่สี่เหลี่ยม
    • รับความยาวและความกว้างจากผู้ใช้
    • คำนวณพื้นที่ (ความยาว × ความกว้าง)
    • แสดงผลลัพธ์
  3. แปลงหน่วยเงิน
    • รับจำนวนเงินในหน่วยบาทจากผู้ใช้
    • แปลงเป็นดอลลาร์สหรัฐ (สมมติ 1 USD = 33 บาท)
    • แสดงผลลัพธ์
สรุป
  • ตัวแปร คือกล่องที่ใช้เก็บข้อมูล เช่น ข้อความ (str), จำนวนเต็ม (int), หรือทศนิยม (float)
  • สามารถคำนวณข้อมูลในตัวแปรได้ด้วยเครื่องหมาย +, , *, /, และอื่นๆ
  • การใช้ตัวแปรร่วมกับการคำนวณช่วยให้คุณสร้างโปรแกรมที่มีประโยชน์ในชีวิตจริงได้