🧩 1. ความหมายของ Operator

Operator (ตัวดำเนินการ) คือ สัญลักษณ์ที่ใช้ “กระทำ” บางอย่างกับข้อมูลหรือค่าตัวแปร
เช่น การบวก ลบ เปรียบเทียบ ตรวจเงื่อนไข หรือตรวจสอบบิต

📘 ตัวอย่าง:

int x = 10 + 5;       // + → Operator บวก
if (x > 10) {...}     // > → Operator เปรียบเทียบ

int x = 10 + 5;       // + → Operator บวก
if (x > 10) {...}     // > → Operator เปรียบเทียบ

⚙️ 2. ประเภทของ Operators ใน Arduino / ESP32

🧮 3. Arithmetic Operators (คณิตศาสตร์)

📘 ตัวอย่าง:

int a = 7, b = 2;
Serial.println(a / b);       // 3
Serial.println((float)a / b); // 3.50

int a = 7, b = 2;
Serial.println(a / b);       // 3
Serial.println((float)a / b); // 3.50

ถ้าเป็น int / int → หารแบบจำนวนเต็ม
ถ้าอยากได้ทศนิยม → แปลงเป็น float ก่อน (float)a / b

🧾 4. Assignment Operators (กำหนดค่า)

📘 ตัวอย่าง:

int x = 10;
x += 3;    // 13
x *= 2;    // 26
Serial.println(x);

int x = 10;
x += 3;    // 13
x *= 2;    // 26
Serial.println(x);

⚖️ 5. Comparison Operators (เปรียบเทียบ)

📘 ตัวอย่าง:

int temp = 28;
if (temp > 30) Serial.println("Hot");
else Serial.println("Cool");

int temp = 28;
if (temp > 30) Serial.println("Hot");
else Serial.println("Cool");

🧠 6. Logical Operators (ตรรกะ)

ใช้ในการตรวจสอบ “หลายเงื่อนไขพร้อมกัน”
ค่าผลลัพธ์จะเป็น true (1) หรือ false (0)

📘 ตัวอย่าง:

int temp = 35;
int humid = 80;
if (temp > 30 && humid > 70) {
  Serial.println("ร้อนและชื้น");
}

int temp = 35;
int humid = 80;
if (temp > 30 && humid > 70) {
  Serial.println("ร้อนและชื้น");
}

🔢 7. Bitwise Operators (ระดับบิต)

ใช้มากในงานควบคุมฮาร์ดแวร์, การตั้งค่า Register, การทำบิตมาสก์

📘 ตัวอย่าง:

byte val = 0b0001;
val = val << 3;  // 0b1000

byte val = 0b0001;
val = val << 3;  // 0b1000

ใช้ในงานเช่น “เลื่อนบิตเพื่อควบคุม LED หลายดวง” หรือ “อ่านสถานะขา I/O หลายบิต”

➕ 8. Increment / Decrement (เพิ่ม–ลดค่า)

ความแตกต่างเล็กน้อย:

int a = 5;
Serial.println(a++); // พิมพ์ 5 แล้วค่อยเพิ่ม → a=6
Serial.println(++a); // เพิ่มก่อน → พิมพ์ 7

int a = 5;
Serial.println(a++); // พิมพ์ 5 แล้วค่อยเพิ่ม → a=6
Serial.println(++a); // เพิ่มก่อน → พิมพ์ 7

❓ 9. Conditional (Ternary) Operator

ใช้แทน if–else แบบย่อ
รูปแบบ:

(condition) ? value_if_true : value_if_false;

(condition) ? value_if_true : value_if_false;

📘 ตัวอย่าง:

int temp = 30;
String msg = (temp > 28) ? "Hot" : "Cool";
Serial.println(msg);

int temp = 30;
String msg = (temp > 28) ? "Hot" : "Cool";
Serial.println(msg);

ถ้า temp > 28 เป็นจริง → msg = "Hot"
ถ้าเท็จ → "Cool"

📦 10. Miscellaneous Operators (อื่น ๆ)

📘 ตัวอย่าง:

int arr[5];
Serial.println(sizeof(arr));       // 10 (ถ้า int=2 bytes)
Serial.println(sizeof(arr)/sizeof(arr[0]));  // จำนวนสมาชิกในอาเรย์

int arr[5];
Serial.println(sizeof(arr));       // 10 (ถ้า int=2 bytes)
Serial.println(sizeof(arr)/sizeof(arr[0]));  // จำนวนสมาชิกในอาเรย์

⚡ 11. ลำดับความสำคัญของ Operator (Precedence)

ใช้วงเล็บ ( ) เพื่อควบคุมลำดับเสมอ จะปลอดภัยที่สุด

💡 12. ตัวอย่างรวม: ใช้ Operators ร่วมกัน

const int LED = 2;
int count = 0;

void setup() {
  pinMode(LED, OUTPUT);
  Serial.begin(115200);
}

void loop() {
  count++;

  // แสดงเลขคู่/คี่
  String msg = (count % 2 == 0) ? "Even" : "Odd";
  Serial.printf("Count = %d (%s)\n", count, msg.c_str());

  // ถ้าเป็นเลขคู่ → เปิดไฟ
  digitalWrite(LED, (count % 2 == 0) ? HIGH : LOW);
  delay(500);
}

const int LED = 2;
int count = 0;

void setup() {
  pinMode(LED, OUTPUT);
  Serial.begin(115200);
}

void loop() {
  count++;

  // แสดงเลขคู่/คี่
  String msg = (count % 2 == 0) ? "Even" : "Odd";
  Serial.printf("Count = %d (%s)\n", count, msg.c_str());

  // ถ้าเป็นเลขคู่ → เปิดไฟ
  digitalWrite(LED, (count % 2 == 0) ? HIGH : LOW);
  delay(500);
}

ผลลัพธ์

Count = 1 (Odd)
Count = 2 (Even)
Count = 3 (Odd)
...

Count = 1 (Odd)
Count = 2 (Even)
Count = 3 (Odd)
...

🧠 13. เคล็ดลับ

• ใช้ Serial.println() แสดงค่าผลลัพธ์จากการลอง Operator แต่ละแบบ
• ให้ลองเปรียบเทียบค่าจริง–เท็จ (true=1, false=0)
• สร้างโจทย์ “เช็คไฟ LED เปิด/ปิดตามเงื่อนไข” โดยใช้ &&, ||, %, และ ? :
• ให้ฝึก “บิตมาสก์” ควบคุม LED 8 ดวง (ใช้ <<, |, &)

📚 14. สรุปภาพรวม Operators ทั้งหมด

🧾 15. ฝึกทำ

1️⃣ เขียนโปรแกรมรับค่าอุณหภูมิจาก Serial → ถ้าเกิน 30°C ให้พิมพ์ “Hot”
2️⃣ ใช้ ?: ตัดสินใจเปิดไฟ LED ตามเงื่อนไข
3️⃣ สร้างโปรแกรมนับเลข 1–10 แล้วโชว์ว่าเป็น “Even / Odd”
4️⃣ ใช้ Bitwise เปิด LED ทีละดวง (เลื่อนบิต)
5️⃣ ใช้ sizeof() ตรวจขนาดตัวแปรชนิดต่าง ๆ