ชนิดข้อมูลพื้นฐาน (Basic Data Types)

November 2, 2568

ชนิดข้อมูล (Data Type) หมายถึง “ประเภทของค่าที่ตัวแปรสามารถเก็บได้”
ซึ่งจะกำหนด ขนาดหน่วยความจำ (byte) ที่ใช้เก็บ และ ช่วงค่าที่เก็บได้ ของตัวแปรนั้น ๆ
บน ESP32 (32-bit processor) ขนาดของข้อมูลบางประเภทจะใหญ่กว่า Arduino UNO (8-bit) ครับ

1. `void`

ใช้ในฟังก์ชันที่ ไม่คืนค่าใด ๆ
เหมือนคำว่า “ไม่มีข้อมูล”
ตัวอย่างเช่น setup() และ loop() ที่ไม่ส่งค่ากลับ

C++

void setup() {
  Serial.begin(115200);
}

void loop() {
  Serial.println("Running...");
  delay(1000);
}

void setup() {
  Serial.begin(115200);
}

void loop() {
  Serial.println("Running...");
  delay(1000);
}

void หมายความว่า ฟังก์ชันนี้ไม่มีค่า return กลับมาให้ใคร

2. `bool` (บูลีน)

ใช้เก็บค่า “จริง/เท็จ”
มีเพียงสองค่าเท่านั้น คือ true (1) และ false (0)
ขนาด 1 byte
นิยมใช้ในการตัดสินใจ เช่น if, while, loop

C++

bool ledState = true;

void loop() {
  if (ledState) {
    digitalWrite(2, HIGH);
  } else {
    digitalWrite(2, LOW);
  }
}

bool ledState = true;

void loop() {
  if (ledState) {
    digitalWrite(2, HIGH);
  } else {
    digitalWrite(2, LOW);
  }
}

3. `char` (ตัวอักษร)

เก็บตัวอักษร 1 ตัว เช่น 'A', 'b', '9'
จริง ๆ แล้วเก็บเป็น รหัส ASCII (ตัวเลข)
ขนาด 1 byte → เก็บได้ตั้งแต่ -128 ถึง 127
สามารถใช้เป็นตัวเลขได้ด้วย (เช่น 'A' = 65)

C++

char letter = 'A';
Serial.println(letter);        // แสดง A
Serial.println((int)letter);   // แสดง 65

char letter = 'A';
Serial.println(letter);        // แสดง A
Serial.println((int)letter);   // แสดง 65

ถ้าต้องการเก็บ “ข้อความหลายตัว” ต้องใช้ char array หรือ String

4. `byte` และ `unsigned char`

ขนาด 1 byte เหมือนกัน
เก็บตัวเลขบวก 0–255
เหมาะกับการเก็บค่าดิจิทัล, สี RGB, ข้อมูลบิต
นิยมใช้ในวงจรสื่อสาร (I2C, SPI) หรือ buffer

C++

byte val = 255;
Serial.println(val);  // 255

byte val = 255;
Serial.println(val);  // 255

5. `int` (จำนวนเต็ม)

เก็บค่าจำนวนเต็มบวกและลบ
ขนาด 4 byte บน ESP32 (32-bit)
(บน Arduino UNO จะมีขนาด 2 byte เท่านั้น)
ช่วงค่าที่เก็บได้: -2,147,483,648 ถึง 2,147,483,647

C++

int count = -123;
int total = 45 + 55;
Serial.println(count + total);

int count = -123;
int total = 45 + 55;
Serial.println(count + total);

ใช้ทั่วไปมาก เช่น ตัวนับ, ค่าจาก digitalRead, loop index

6. `unsigned int`

คล้าย int แต่ไม่มีค่าลบ
ขนาด 4 byte
เก็บได้: 0 ถึง 4,294,967,295
ใช้เมื่อมั่นใจว่าข้อมูลจะเป็น “จำนวนบวกเท่านั้น” เช่น เวลา (millis)

C++

unsigned int timer = millis();
Serial.println(timer);

unsigned int timer = millis();
Serial.println(timer);

7. `long` และ `unsigned long`

ใช้เก็บจำนวนเต็มขนาดใหญ่
ขนาด 4 byte (เหมือน int บน ESP32 แต่เน้นการใช้งานระยะยาว)
เหมาะสำหรับตัวนับเวลา เช่น millis(), micros()

C++

unsigned long t1 = millis();
delay(1000);
unsigned long t2 = millis();
Serial.println(t2 - t1); // ประมาณ 1000

unsigned long t1 = millis();
delay(1000);
unsigned long t2 = millis();
Serial.println(t2 - t1); // ประมาณ 1000

millis() คืนค่าแบบ unsigned long เสมอ เพราะมันจะเพิ่มขึ้นตลอดโดยไม่ลบ

8. `float`

ใช้เก็บค่าทศนิยม (เลขที่มีจุด) เช่น 3.14, -0.75
ขนาด 4 byte (32-bit floating point)
ความละเอียดประมาณ 6–7 หลักทศนิยม

C++

float temp = 36.7521;
float voltage = 3.3;
Serial.println(temp);
Serial.println(voltage * 2);

float temp = 36.7521;
float voltage = 3.3;
Serial.println(temp);
Serial.println(voltage * 2);

ใช้บ่อยกับค่าจาก sensor analog เช่น อุณหภูมิ, ความชื้น

9. `double`

เหมือน float แต่ละเอียดกว่า (บน ESP32 คือ 8 byte, 64-bit)
เหมาะสำหรับคำนวณทางคณิตศาสตร์หรือกรณีต้องการความแม่นยำสูง

C++

double pi = 3.141592653589793;
Serial.println(pi, 15); // แสดงทศนิยม 15 ตำแหน่ง

double pi = 3.141592653589793;
Serial.println(pi, 15); // แสดงทศนิยม 15 ตำแหน่ง

10. `String`

ใช้เก็บ “ข้อความ” เช่น "Hello"
เป็นคลาสที่ใช้งานง่ายใน Arduino (เหมือนในภาษา Python/Java)
มีเมธอดช่วย เช่น .length(), .toInt(), .substring()

C++

String name = "ESP32";
Serial.println("Hello " + name);
Serial.println(name.length());  // 5

String name = "ESP32";
Serial.println("Hello " + name);
Serial.println(name.length());  // 5

ใช้ง่ายแต่กิน RAM มากกว่าการใช้ char[]
ถ้าต้องการประสิทธิภาพสูง ควรใช้ char[] แทน

11. `char[]` (C-String)

เก็บข้อความแบบ array ของตัวอักษร (ลงท้ายด้วย \0)
ใช้หน่วยความจำน้อยกว่า String
เหมาะกับงานสื่อสาร UART, Wi-Fi, หรือการประมวลผลข้อความ

C++

char msg[] = "Hello";
Serial.println(msg);

char msg[] = "Hello";
Serial.println(msg);

ชนิดข้อมูล	ขนาด (โดยทั่วไป)	ช่วงค่าที่เก็บได้	ตัวอย่างการประกาศ	หมายเหตุ
`void`	–	ไม่มีค่า	`void setup() { }`	ใช้เมื่อฟังก์ชันไม่คืนค่า
`bool`	1 byte	`true` / `false`	`bool ledState = true;`	ใช้กับเงื่อนไข/สถานะ
`char`	1 byte	-128 ถึง 127	`char c = 'A';`	ใช้เก็บตัวอักษร 1 ตัว
`unsigned char`	1 byte	0 ถึง 255	`unsigned char b = 255;`	เก็บตัวเลขบวกขนาดเล็ก
`byte`	1 byte	0 ถึง 255	`byte val = 100;`	เหมือน `unsigned char`
`int`	4 byte (บน ESP32)	-2,147,483,648 ถึง 2,147,483,647	`int x = -100;`	ตัวเลขจำนวนเต็ม
`unsigned int`	4 byte	0 ถึง 4,294,967,295	`unsigned int t = 50000;`	ตัวเลขบวก
`short`	2 byte	-32,768 ถึง 32,767	`short s = 200;`	ตัวเลขขนาดเล็ก
`unsigned short`	2 byte	0 ถึง 65,535	`unsigned short us = 60000;`	–
`long`	4 byte	-2,147,483,648 ถึง 2,147,483,647	`long l = 123456L;`	ใช้กับ millis()
`unsigned long`	4 byte	0 ถึง 4,294,967,295	`unsigned long t = millis();`	ใช้นับเวลา
`long long`	8 byte	ค่ามากๆ	`long long big = 12345678900LL;`	จำนวนเต็มขนาดใหญ่
`float`	4 byte	~6-7 หลักทศนิยม	`float f = 3.1416;`	ใช้กับค่าทศนิยม
`double`	8 byte (ESP32)	~15 หลักทศนิยม	`double d = 3.1415926535;`	บน ESP32 = 64 บิตจริง
`String`	ขึ้นอยู่กับความยาว	ข้อความ	`String msg = "Hello";`	ใช้งานง่ายกว่ `char[]`
`char[]`	ตามจำนวนตัวอักษร	ข้อความแบบ C	`char name[] = "LIC";`	ใช้ได้เร็วกว่าในบางกรณี

💡 ตัวอย่างการใช้งานในโค้ด

🔸 ตัวอย่าง 1: การประกาศตัวแปรแต่ละชนิด

C++

void setup() {
  Serial.begin(115200);

  bool state = true;
  char letter = 'A';
  int count = 123;
  float temp = 36.75;
  double precise = 3.1415926535;
  String name = "Nathee";

  Serial.println(state);      // แสดงค่า true = 1
  Serial.println(letter);     // แสดง A
  Serial.println(count);      // แสดง 123
  Serial.println(temp);       // แสดง 36.75
  Serial.println(precise, 10);// แสดงทศนิยม 10 ตำแหน่ง
  Serial.println(name);       // แสดง Nathee
}

void loop() {}

void setup() {
  Serial.begin(115200);

  bool state = true;
  char letter = 'A';
  int count = 123;
  float temp = 36.75;
  double precise = 3.1415926535;
  String name = "Nathee";

  Serial.println(state);      // แสดงค่า true = 1
  Serial.println(letter);     // แสดง A
  Serial.println(count);      // แสดง 123
  Serial.println(temp);       // แสดง 36.75
  Serial.println(precise, 10);// แสดงทศนิยม 10 ตำแหน่ง
  Serial.println(name);       // แสดง Nathee
}

void loop() {}

🔸 ตัวอย่าง 2: การแปลงชนิดข้อมูล (Type Casting)

C++

int a = 10;
float b = 3;
float result = (float)a / b;  // แปลง a เป็น float ก่อนหาร

Serial.println(result);  // 3.333333

int a = 10;
float b = 3;
float result = (float)a / b;  // แปลง a เป็น float ก่อนหาร

Serial.println(result);  // 3.333333

🔸 ตัวอย่าง 3: ตัวเลขใหญ่และเวลา

C++

unsigned long startTime = millis();  // เวลาเริ่มต้น (ms)
delay(1000);
unsigned long duration = millis() - startTime;
Serial.println(duration);  // ประมาณ 1000

unsigned long startTime = millis();  // เวลาเริ่มต้น (ms)
delay(1000);
unsigned long duration = millis() - startTime;
Serial.println(duration);  // ประมาณ 1000

🔸 ตัวอย่าง 4: ตัวแปรข้อความ (String)

C++

String name = "ESP32";
String msg = "Hello " + name;
Serial.println(msg);   // Hello ESP32
Serial.println(msg.length()); // แสดงความยาว 9

String name = "ESP32";
String msg = "Hello " + name;
Serial.println(msg);   // Hello ESP32
Serial.println(msg.length()); // แสดงความยาว 9

🧠 ทำไม “ชนิดข้อมูล” ถึงสำคัญ?

เพราะ ESP32 มีหน่วยความจำจำกัด (RAM ~520 KB)
ถ้าใช้ชนิดข้อมูลใหญ่โดยไม่จำเป็น จะ เปลืองหน่วยความจำ และ ทำงานช้าลง

ตัวอย่างเช่น 👇

งานที่ต้องการ	ชนิดข้อมูลที่แนะนำ
เปิด-ปิดไฟ LED, สถานะ Sensor	`bool`
นับจำนวนรอบ, ค่าเล็กๆ (<255)	`byte`
ค่าจาก Analog, Timer, Loop Counter	`int` หรือ `unsigned long`
อุณหภูมิ, แรงดันไฟ	`float`
ข้อความ/ชื่อ/คำ	`String` หรือ `char[]`

⚠️ ข้อควรระวังและเคล็ดลับ

ปัญหา	คำอธิบาย
Overflow	ถ้าค่าเกินช่วงที่เก็บได้ → จะ “วนกลับ” (เช่น 255+1 = 0 ใน byte)
หน่วยความจำจำกัด	ใช้ชนิดข้อมูลใหญ่โดยไม่จำเป็น → เปลือง RAM
String กินหน่วยความจำมาก	ถ้าใช้ต่อเนื่อง ควรใช้ `char[]` แทนในงานจริง
เปรียบเทียบค่า float/double	ห้ามใช้ `==` ควรใช้การเปรียบเทียบช่วง เช่น `abs(a-b) < 0.001`
unsigned	เก็บค่าเป็นบวกเท่านั้น → เหมาะกับเวลา, counter, byte data

🔍 เปรียบเทียบ float vs double (บน ESP32)

บอร์ด	float	double	หมายเหตุ
Arduino UNO	4 ไบต์	4 ไบต์	float = double (เท่ากัน)
ESP32	4 ไบต์	8 ไบต์	double มีความละเอียดสูงกว่า

📘 ตัวอย่างเพิ่มเติม — การเลือกใช้ที่เหมาะสม

C++

bool buttonPressed = false;         // แค่สถานะจริง/เท็จ
byte brightness = 128;              // ความสว่าง LED (0–255)
unsigned long startTime = millis(); // ตัวนับเวลา (ไม่มีค่าลบ)
float sensorValue = 23.56;          // ค่าจากเซนเซอร์
char name[] = "LIC COLLEGE";        // ข้อความแบบ C
String message = "Hello ESP32!";    // ข้อความแบบง่าย

bool buttonPressed = false;         // แค่สถานะจริง/เท็จ
byte brightness = 128;              // ความสว่าง LED (0–255)
unsigned long startTime = millis(); // ตัวนับเวลา (ไม่มีค่าลบ)
float sensorValue = 23.56;          // ค่าจากเซนเซอร์
char name[] = "LIC COLLEGE";        // ข้อความแบบ C
String message = "Hello ESP32!";    // ข้อความแบบง่าย

🎯 สรุปง่าย ๆ

ประเภทข้อมูล	หน้าที่หลัก	ตัวอย่างการใช้งาน
bool	สถานะ (เปิด/ปิด)	สั่งเปิด LED, เช็ค sensor
int / long	จำนวนเต็ม	นับรอบ, ระยะเวลา
float / double	ค่าทศนิยม	ค่าสัญญาณ analog
char / String	ข้อความ	พิมพ์ชื่อ, แสดงบนจอ
unsigned	ค่าบวกเท่านั้น	ตัวนับเวลา, counter
byte	ค่าต่ำสุดใน 1 ไบต์	สี, PWM, สื่อสารข้อมูล

1. void

2. bool (บูลีน)

3. char (ตัวอักษร)

4. byte และ unsigned char

5. int (จำนวนเต็ม)

6. unsigned int

7. long และ unsigned long

8. float

9. double

10. String

11. char[] (C-String)