📝 เนื้อหาบทเรียน
1. บทนำ
- สายสัญญาณ (Cables) ทำให้เกิดการเชื่อมต่อแบบ Point-to-Point คือมีเพียงสองอุปกรณ์ปลายทางคุยกันโดยตรง
- แต่ในโลกจริงที่มีอุปกรณ์หลายพันล้านเครื่อง เราจำเป็นต้องมี อุปกรณ์เครือข่าย (Networking Devices) เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมากเข้าด้วยกัน
- อุปกรณ์ที่พบบ่อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของเครือข่ายคือ Hub และ Switch
2. Hub (Layer 1 Device)
- ความหมาย: Hub เป็นอุปกรณ์เครือข่ายในชั้น Physical Layer (Layer 1)
- หน้าที่:
- รับข้อมูลจากอุปกรณ์หนึ่ง แล้วกระจาย (Broadcast) ไปยังทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับมัน
- ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อจะ “ได้ยิน” ข้อมูลทั้งหมด ต้องเลือกเองว่าข้อมูลนั้นส่งถึงตนหรือไม่
- ข้อเสีย:
- สร้างสิ่งที่เรียกว่า Collision Domain = พื้นที่เครือข่ายที่อุปกรณ์สามารถชนกันของข้อมูลได้
- ถ้ามีหลายเครื่องส่งข้อมูลพร้อมกัน สัญญาณจะชนกัน ต้องรอช่วงเวลาที่ว่างแล้วส่งใหม่ → ทำให้เครือข่ายช้า
- สถานะปัจจุบัน: ปัจจุบันแทบไม่ใช้แล้ว เนื่องจากประสิทธิภาพต่ำ ถือว่าเป็น อุปกรณ์ในประวัติศาสตร์
3. Switch (Layer 2 Device)
- ความหมาย: Switch เป็นอุปกรณ์เครือข่ายในชั้น Data Link Layer (Layer 2)
- หน้าที่:
- คล้าย Hub คือใช้เชื่อมต่อหลายอุปกรณ์
- แต่ต่างกันตรงที่ Switch สามารถอ่าน Ethernet Frame และดูว่า MAC Address ของผู้รับเป็นใคร
- ส่งข้อมูลเฉพาะไปยังอุปกรณ์ที่ต้องการเท่านั้น (Unicast) ไม่กระจายไปทุกเครื่องเหมือน Hub
- ข้อดี:
- ลดหรือกำจัดปัญหา Collision Domain
- ทำให้ Throughput สูงขึ้น และมีการส่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน
4. การเปรียบเทียบ Hub และ Switch
คุณสมบัติ | Hub (Layer 1) | Switch (Layer 2) |
---|---|---|
ชั้นในโมเดล OSI | Physical Layer (Layer 1) | Data Link Layer (Layer 2) |
วิธีส่งข้อมูล | ส่งออกไปทุกพอร์ต (Broadcast) | ส่งไปเฉพาะพอร์ตที่ปลายทางอยู่ |
Collision Domain | ทั้งเครือข่ายที่ต่อกับ Hub | แยก Collision Domain ต่อพอร์ต |
ประสิทธิภาพ | ต่ำ – เกิดการชนบ่อย | สูง – ลดการชนและเพิ่ม Throughput |
การใช้งานปัจจุบัน | เลิกใช้แล้ว (ประวัติศาสตร์) | ใช้ทั่วไปในบ้าน/สำนักงาน/องค์กร |
✅ สรุปสาระสำคัญ
- Hub → อุปกรณ์เก่าที่ใช้กระจายข้อมูลไปทุกเครื่อง ทำให้เกิดการชนของข้อมูล (Collision)
- Switch → อุปกรณ์ที่พัฒนามาแทน Hub สามารถเลือกส่งข้อมูลได้ตรงจุด มีประสิทธิภาพมากกว่า
- การเข้าใจเรื่อง Collision Domain ช่วยให้นักเรียนวิเคราะห์ปัญหาเครือข่ายได้ดีขึ้น และเข้าใจว่าทำไม Switch จึงเป็นมาตรฐานที่ใช้ในปัจจุบัน
🧩 คำถามท้ายบทเรียน
- อธิบายการทำงานของ Hub และ Switch ว่ามีความเหมือนและต่างกันอย่างไร
- Collision Domain คืออะไร และส่งผลต่อเครือข่ายอย่างไร?
- เพราะเหตุใด Switch จึงสามารถลดปัญหา Collision Domain ได้?
- ปัจจุบัน Hub ถูกแทนที่ด้วยอุปกรณ์อะไร และเพราะเหตุใด?
- ถ้าคุณเป็น IT Support จะเลือกใช้อุปกรณ์ใดสำหรับเครือข่ายสำนักงานขนาดเล็ก และเพราะอะไร?